fbpx

พร้อมส่งผิวสวยแล้ว..วันนี้

ปัญหารอยคล้ำใต้ตา

แชร์หน้านี้

ปัญหารอยคล้ำใต้ตา

แชร์หน้านี้

ปัญหารอยคล้ำใต้ตาเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย และมักจะเป็นมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ถึงแม้ว่ารอยคล้ำใต้ตาจะไม่ใช่ปัญหาสำคัญด้านสุขภาพ หรือเป็นโรคที่จำเป็นต้องรักษา แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาด้านความสวยงาม เนื่องจากการมีรอยคล้ำใต้ตาอาจทำให้ดูเศร้า เหนื่อย และดูอายุมากกว่าที่เป็นจริงได้ การเกิดรอยคล้ำใต้ตามีสาเหตุหลัก 3 ประการคือ มีการสร้างเม็ดสีบริเวณผิวหนังใต้ตาเพิ่มขึ้น การมีผิวหนังบริเวณใต้ตาบาง และการเกิดเงาดำใต้ตาจากการมีผิวหนังใต้ตาหย่อน(ร่องน้ำตา) ซึ่งรอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากสาเหตุต่างกันก็จะมีวิธีการรักษาแตกต่างกันออกไปด้วย

รอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากการสร้างเม็ดสีบริเวณผิวหนังใต้ตาเพิ่มขึ้น มักพบในภาวะรอยดำที่เกิดตามหลังการอักเสบในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่ผิวหนังเรื้อรัง (atopic dermatitis) หรือการแพ้จากการสัมผัสสารต่างๆ (allergic contact dermatitis) รอยคล้ำใต้ตาจากสาเหตุนี้มักมีสีออกเทา เมื่อเอามือรีดผิวหนังบริเวณนั้นรอยคล้ำก็จะไม่จางไป รอยคล้ำใต้ตาจากสาเหตุนี้สามารถรักษาด้วยการใช้ครีมที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น Arbutin Licorice Kojic หรือครีมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ หรือสามารถใช้เลเซอร์กำจัดเม็ดสีทำให้รอยคล้ำใต้ตาจางลงได้

รอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากการมีผิวหนังใต้ตาบาง หรืออาจมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังบริเวณนั้นบางลงร่วมด้วย รอยดำใต้ตาจากสาเหตุนี้มักเกิดจากเส้นเลือดใต้ผิวหนัง มักจะมีสีออกม่วง และเห็นชัดมากบริเวณด้านหัวตา โดยเฉพาะในช่วงที่มีประจำเดือน รอยคล้ำใต้ตาจากสาเหตุนี้ไม่ตอบสนองต่อการทายา แต่จะตอบสนองดีต่อการรักษาด้วยเลเซอร์กำจัดเส้นเลือดหรือการฉีดสารเติมเต็มเพื่อทำให้ผิวหนังดูหนาขึ้นได้

รอยคล้ำใต้ตาจากการที่มีผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อย จนทำให้เกิดเงาดำใต้ตา มักเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น รอยคล้ำใต้ตาจากสาเหตุนี้มักพบการมีรอยย่นรอบดวงตาร่วมด้วย ในรายที่เป็นมากๆอาจมีถุงใต้ตาร่วมด้วยได้ การรักษารอยคล้ำใต้ตาจากวิธีนี้สามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น เลเซอร์หรือคลื่นความถี่วิทยุที่มีผลทำให้ผิวหนังใต้ตากระชับขึ้น การฉีดสารเติมเต็มเพื่อทำให้ร่องน้ำตาตื้นขึ้นหรือในรายที่เป็นมากๆหรือมีถุงใต้ตาขนาดใหญ่อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

เนื่องจากรอยคล้ำใต้ตาเกิดได้จากหลายสาเหตุและแต่ละสาเหตุมีวิธีการรักษาแตกต่างกัน ผู้ที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตาที่ต้องการรักษา จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ทราบสาเหตุของการเกิดรอยคล้ำใต้ตาก่อน จะได้เลือกวิธีการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป

ที่มา : คอลัมภ์ดูแลสุขภาพ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดย รศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

แชร์หน้านี้

0